Wednesday, January 21, 2009

ทัศนศึกษาลำปาง - แพร่ - น่าน

วันที่ 15 ถึง 17 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ผมและคณะอาจารย์พานักศึกษาทั้งไทยและฝรั่งจำนวนกว่า 50 คน เดินทางไปทัศนศึกษาวัดวาอารามในจังหวัดลำปาง แพร่ น่าน

มีอาจารย์สุพล ปวราจารย์เป็นวิทยากรหลัก


กำลังขึ้นบันไดนาควัดพระธาตุลำปางหลวง


พระธาตุลำปางหลวง


นาคชูคอบนซุ้มโขงทางเข้าหลักของเขตพุทธาวาสของวัดพระธาตุลำปางหลวง


ทันทีที่นักศึกษาได้รับรู้สเกลของวัดพระธาตุลำปางหลวง เราก็พาไปสัมผัสกับสเกลที่แตกต่างในผังเดียวกันที่วัดไหล่หินจนหลายคนรับรู้ได้ถึงความหมายของคำว่า"สเกล"ในงานสถาปัตยกรรมที่ไม่ได้แปลว่า"มาตราส่วน"


จากนั้นเราไปวัดปงสนุก ซึ่งบูรณะเสร็จแล้ว


หลายคนได้วิชาความรู้สถาปัตยกรรมไทยจากอาจารย์แล้ว ยังได้รู้ดวงชะตาของตนอีกด้วย


เราตียาวมุ่งสู่เมืองน่าน และมีโอกาสแวะวัดพญาวัดก่อนเข้าเมือง เพื่อดูพระเจดีย์เหลี่ยมที่ได้อิทธิพลทั้งจากหริภุญชัยและล้านช้าง


รุ่งขึ้นวันที่ 16 เราไปใจเมืองน่าน หมอกยังหนา อากาศยังหนาว ผมได้ภาพวิหารวักภูมินทร์ในอีกบรรยากาศหนึ่งแล้ว


อาจารย์สุพลบรรยาย นักศึกษาจด อาจารย์วีรพจน์เก็บหลักฐานภาพถ่าย


ถ่ายภาพร่วมกันไว้เป็นที่ระลึก แวนดราน่า นักศึกษาแลกเปลี่ยนก็ร่วมถ่ายภาพด้วย


แล้วเราก็เดินข้ามถนนไปวัดช้างค้ำ ส่วนบนองค์พระธาตุหุ้มแผ่นทองแล้ว


เณรทั้งหลายมานั่งเข้าแถวเตรียมทำงานตอนเช้า

อักษรย่อใต้หน้าบันของหอไตรวัดช้างค้ำที่พวกเราช่วยกันตีความแต่ไม่สำเร็จ
แท้แล้วย่อจากความว่า "พระเจ้าน่านพระราชกุศลถวายพระพุทธเจ้าหลวง"

ข้ามถนนอีกทีไปดูวัดหัวข่วง มีพระธาตุทรงปราสาททรงสวยสัดส่วนดี มีหอไตรทรงพื้นเมืองขนาดกะทัดรัด


ตอนบ่าย เรามุ่งหน้าสู่ดินแดนไตลื้อที่อำเภอเชียงกลาง ปัว และท่าวังผา
วัดแรกที่เราแวะคือวัดต้นแหลง ดูวิหารแบบลื้อ


ไปดูวิหารลื้อวัดหนองแดง


นาคตันลวดลายสวยงามไม่ซ้ำแบบของวิหารวัดหนองแดง


ส่วนหนึ่งเข้าข้างใน จอดรองเท้าไว้ตรงทางเข้า อีกส่วนหนึ่งเดินดูไปรอบๆวิหาร


ไปดูวัดหนองบัวที่ท่าวังผา


วันที่ 17 เราจากเมืองน่านมุ่งสู่เมืองแพร่ แวะวัดพระธาตุช่อแฮเป็นแห่งแรก เข้าไปกราบพระพุทธชินราชในวิหาร


มาพระธาตุช่อแฮคราวที่แล้ว ไม่มีเลนส์วายด์ ถ่ายไม่หมดองค์พระธาตุเพราะพื้นที่คับแคบ คราวนี้มาใหม่พร้อมเลนส์วายด์ แต่ติดนั่งร้าน ไม่ได้ถ่ายอยู่ดี สงสัยจะไม่มีบุญ


แวะเมืองลอง ดูวัดสะแล่ง ซึ่งอาจารย์สมคิด จิระทัศนกุลและอาจารย์เสนอ นิลเดชมาช่วยออกแบบให้
โบสถ์ล้านนาร่วมสมัยล้อมด้วยกำแพงแก้วและใบเสมาแบบโมเดิร์น

Friday, October 31, 2008

แม่แจ่ม




แม่แจ่มกลางเดือนตุลา ทุ่งนากำลังงามสลับกับไร่ข้าวโพดที่แห้งเหี่ยวหลังการเก็บเกี่ยว

ที่ราบที่มีเนินอยู่บ้างทำให้ทุ่งนาที่นี่เป็นนาขั้นบันไดผสมผสาน ขับรถผ่านเป็นอดไม่ได้ที่ต้องมอง ที่ต้องถ่ายรูป
เฮือนไม้กลางทุ่งที่บ้านนาเรือน

เถงนาที่โดดเด่นอยู่กลางทุ่งเขียวๆมีให้ดูอยู่ทั่วไป


วิหารวัดกองแขกเหนือ บูรณะแล้วแจ่มไปหน่อย อาจต้องรออีกหลายๆปีแล้วค่อยไปถ่ายรูป จะได้อารมณ์กว่านี้หน่อย ^_^
อุ้ยกำลังบอกเล่าเรื่องราว


ตื่นแต่เช้าไปเดินในหมู่บ้านก็จะเจอภาพแบบนี้

เช้ามืดวันออกพรรษา เราไปวัดบ้านทัพกัน ชาวบ้านมากมายมาทำบุญกันแต่มืด






ในวิหารคนนั่งกันเต็มหมดแล้ว ศาลาบาตรโดยรอบจึงเต็มไปด้วยศรัทธา นั่งกันจนเต็ม

ลูกหลานจาวเมืองแจ่มในงานวันเปิดพิพิธภัณฑ์ชุมชนแม่แจ่มที่วัดบุปผา


ป้ออุ้ยกอนแก้ว อินต๊ะก๋อน ช่างทำปิ่นคนเดียวของเมืองแจ่มในปัจจุบัน

ปิ่นปักผมผลงานป้ออุ้ย

ปิ่นปักผมกับดอกไม้ ดอกที่เรียวแหลมปักชี้ขึ้นชื่อดอกเกี๋ยง เขาว่ามีที่เมืองแจ่มนี้ที่เดียว

ดอกเกี๋ยงที่ชาวแจ่มใช้เหน็บผม

Thursday, July 24, 2008

สัมมนา

สาขาสถาปัตยกรรมจัดสัมมนาประจำปีที่บุหลันบุรีรีสอร์ท ถนนสายสะเมิง

ตูบริมสระเมื่อมองจากห้องประชุม

ฝนตกพร่ำๆเย็นและชุ่มฉ่ำ

ที่พักอยู่ทางโน้น ท่าทางสงบดี

บัวขาวดอกใหญ่กำลังบาน

พิจารณางานที่ผ่านมา และหาแนวทางปฏิบัติงานสำหรับวันข้างหน้า เผื่อมันจะดีขึ้น

Saturday, June 14, 2008

Air car รถพลังลมที่ไม่พึ่งน้ำมันมาแว้้วววว.


Guy Nègre อดีตวิศวกรรถฟอร์มูล่าวันและลูกชาย ได้เริ่มคิดค้นประดิษฐ์รถพลังลมตั้งแต่ปี 1993 และในที่สุดก็ได้ Air car แบบแรกของโลก โดยเป็นรถที่ไม่ใช้พลังงานอื่นใดเลยนอกจากพลังงานจากการปลดปล่อยอากาศที่บีบอัดไว้ในถัง (compressed air) บริษัท ทาทา ของอินเดียได้รับสิทธิ์ในการผลิต Air car นี้ และคาดว่าจะสามารถนำออกขายได้ในปีหน้า (2552) ในอินเดียและยุโรป

หลักการทำงานก็แสนจะธรรมดา เหมือนการเป่าลมใส่ลูกโป่ง พอปล่อยมันก็วิ่งไปด้วยพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมา
ใน Air car เมื่อเปิดถังลม พลังงานจะถูกปลดปล่อย ระบบจะเติมความร้อนให้อากาศ เพื่อเพิ่มปริมาตรขึ้นอีก เครื่องยนต์ของรถจะรับพลังงานนั้นไปขับลูกสูบเพื่อหมุนเพลารถ

นอกจากนี้ ขณะรถวิ่งด้วยความเร็ว อากาศส่วนหนึ่งยังถูกดูดเข้ามาเติมความร้อนและป้อนสู่เครื่องยนต์เสริมแรงขึ้นไปอีก

รุ่นถูกสุดราคาจะอยู่ที่ประมาณ 400,000.-บาท
เติมลมจากปั๊มลมธรรมดาในเวลาไม่กี่นาที
วิ่งได้ไกล 210 กิโลเมตรต่อการเติมลมแต่ละครั้ง
ความเร็วสูงสุด 100 กม.ต่อชม.

ปั๊มลมที่ว่าใช้พลังงานไฟฟ้า ถ้าไฟฟ้าผลิตจากพลังน้ำ พลังแสงอาทิตย์ หรือพลังนิวเคลียร์
และถ้านำมันหล่อลื่นเราใช้น้ำมันสังเคราะห์

ก็แปลว่าเราจะไม่พึ่งน้ำมันปิโตรเลียมเลย ทั้งระบบ


Air Car Part 1. Runs on Compressed Air & NO Pollution! - For more funny movies, click here

Air Car Part 2. Runs on Compressed Air & NO Pollution! - The funniest bloopers are right here

วิศวกรยังหวังว่า การขับเคลื่อนของรถยังสามารถปั่นไฟ และนำไฟนั้นปั๊มลมกลับสู่ถังได้อีกด้วย
ถ้า generator และ airpump มีคุณภาพสูง รถก็จะวิ่งได้ตลอดไปโดยไม่ต้องการการเติมอากาศเลย
...